ทำไมการเรียนด้วย LMS ถึงมีประสิทธิภาพมากกว่าการเรียนออนไลน์ทั่วไป
ปัจจุบันการเรียนออนไลน์กลายเป็นเรื่องปกติไปแล้ว และมีหลากหลายรูปแบบ แต่วิธีที่ได้ประสิทธิผลดีที่สุดและสถาบันการศึกษาออนไลน์ชั้นนำเลือกใช้ คือระบบ Learning Management System (LMS) หรือระบบการจัดการเรียนรู้
แต่ทำไมต้องใช้ระบบการจัดการเรียนรู้ ล่ะ ในเมื่อเราสามารถเรียนผ่าน Facebook Group หรือ โปรแกรมประชุมทางไกลอย่าง Zoom ก็ได้? คำถามที่คนเรียนออนไลน์อาจจะสงสัย เพราะเป็นการเรียนผ่านวิดีโอเหมือนกัน แล้วมันต่างกันอย่างไร
ในบทความนี้ SHiFT Your Future จะมาบอกความแตกต่างของการเรียนทั่วไป กับการเรียนผ่านระบบระบบการจัดการเรียนรู้ให้เข้าใจอย่างง่ายๆ กัน
Learning Management System คืออะไร?
Learning Management System (LMS) หรือระบบการจัดการเรียนการสอนผ่านเครือข่าย มีเครื่องมือสำหรับผู้เรียน ผู้สอน และผู้ดูแลระบบ ตั้งแต่ สามารถบริหารจัดการเนื้อหาแบบแยกรายวิชาได้ สามารถลำดับเนื้อหาการเรียนได้ นอกจากนี้ยังสามารถเก็บข้อมูลและรายงานผลผู้เรียนได้อีกด้วย ช่วยให้ผู้เรียนได้รับประสบการณ์การเรียนเหมือนอยู่ในห้องเรียนจริงๆ
ซึ่งสถาบันการศึกษาออนไลน์ที่ประสบความสำเร็จในต่างประเทศอย่าง udemy ที่มีคอร์สเรียนกว่า 155,000 คอร์ส มีมากกว่า 100 สาขาวิชา หรือ coursera ที่ปัจจุบันมีคนเข้าเรียนแล้วมากกว่า 82 ล้านคนทั่วโลก มีพาร์ทเนอร์เป็นสถาบันการศึกษาอย่าง Stanford และบริษัทระดับโลกชื่อดังอย่าง Google และ IBM ก็ใช้ระบบ Learning Management System บริหารคอร์สเรียนออนไลน์ เพื่อสร้างระบบการเรียนรู้ที่ดีที่สุด
แต่ทำไมต้องใช้ระบบการจัดการเรียนรู้ ล่ะ ในเมื่อเราสามารถเรียนผ่าน Facebook Group หรือ โปรแกรมประชุมทางไกลอย่าง Zoom ก็ได้? คำถามที่คนเรียนออนไลน์อาจจะสงสัย เพราะเป็นการเรียนผ่านวิดีโอเหมือนกัน แล้วมันต่างกันอย่างไร
ในบทความนี้ SHiFT Your Future จะมาบอกความแตกต่างของการเรียนทั่วไป กับการเรียนผ่านระบบระบบการจัดการเรียนรู้ให้เข้าใจอย่างง่ายๆ กัน
Learning Management System คืออะไร?
Learning Management System (LMS) หรือระบบการจัดการเรียนการสอนผ่านเครือข่าย มีเครื่องมือสำหรับผู้เรียน ผู้สอน และผู้ดูแลระบบ ตั้งแต่ สามารถบริหารจัดการเนื้อหาแบบแยกรายวิชาได้ สามารถลำดับเนื้อหาการเรียนได้ นอกจากนี้ยังสามารถเก็บข้อมูลและรายงานผลผู้เรียนได้อีกด้วย ช่วยให้ผู้เรียนได้รับประสบการณ์การเรียนเหมือนอยู่ในห้องเรียนจริงๆ
ซึ่งสถาบันการศึกษาออนไลน์ที่ประสบความสำเร็จในต่างประเทศอย่าง udemy ที่มีคอร์สเรียนกว่า 155,000 คอร์ส มีมากกว่า 100 สาขาวิชา หรือ coursera ที่ปัจจุบันมีคนเข้าเรียนแล้วมากกว่า 82 ล้านคนทั่วโลก มีพาร์ทเนอร์เป็นสถาบันการศึกษาอย่าง Stanford และบริษัทระดับโลกชื่อดังอย่าง Google และ IBM ก็ใช้ระบบ Learning Management System บริหารคอร์สเรียนออนไลน์ เพื่อสร้างระบบการเรียนรู้ที่ดีที่สุด
ความต่างระหว่างการเรียนผ่านระบบ LMS กับเรียนออนไลน์ทั่วไป
เราได้รวบรวมจุดเด่น 6 ข้อของระบบ Learning Management System มาเปรียบเทียบให้เห็นความต่างกับการเรียนผ่านแพลตฟอร์มอื่นๆ ดังนี้
-เก็บประวัติผู้เรียน: การเรียนผ่านระบบการจัดการเรียนรู้ นั้นข้อมูลประวัติการเรียนทั้งหมดจะถูกเก็บในระบบ เช่น ลงเรียนไว้กี่วิชา และแต่ละวิชาเรียนถึงบทไหน ทำให้ผู้เรียนไม่ต้องกังวลว่าจะลืม ขณะที่การเรียนออนไลน์ผ่านช่องทางอื่นๆ จะต้องจดจำเองทั้งหมด
-ง่ายต่อการเรียนซ้ำ: คอร์สเรียนส่วนมากจะลงคลิปยาว ทำให้ยากต่อการย้อนกลับไปเรียนซ้ำในจุดที่ยังไม่เข้าใจ ขณะที่ระบบการจัดการเรียนรู้ นั้นสามารถแบ่งบทเรียนออกมาเป็นเพลย์ลิส ทำให้ง่ายต่อการเรียนซ้ำเฉพาะส่วนที่ยังไม่เข้าใจ และไม่ต้องกังวลว่าบทเรียนที่เรียนผ่านไปแล้วจะหายไปจากระบบ
-แทรกเอกสารลงในบทเรียนได้: อีกความโดดเด่นของระบบการจัดการเรียนรู้ คือนอกจากเพลย์ลิสจะมีบทเรียนวิดีโอแล้ว ยังสามารถแทรก Presentation ที่ใช้ในบทเรียน ให้ผู้เรียนดาวน์โหลดเก็บเอาไว้ได้อีกด้วย
-ช่วยให้ผู้เรียนได้คิดตามบทเรียน: การเรียนออนไลน์ส่วนมาก เราจะแค่ฟัง และจบไป แต่ในระบบการจัดการเรียนรู้ สามารถออกแบบระบบให้ผู้เรียนสามารถทำ “แบบฝึกหัด” ขณะเรียนได้เลย โดยระบบจะหยุดคลิปอัตโนมัติเพื่อให้ผู้เรียนได้คิด และลองทำแบบฝึกหัด เมื่อทำเสร็จก็สามารถกดเรียนต่อ เพื่อฟังผู้สอนเฉลยคำตอบได้
-มั่นใจว่าได้ประโยชน์หลังการเรียน: ระบบสามารถดูความคืบหน้าของผู้เข้าเรียนได้ ว่า เรียนถึงบทไหน และได้ทำแบบฝึกหัดในแต่ละบทไหม และนำไปวิเคราะห์ได้ว่านักเรียนเข้าใจบทเรียนหรือไม่
-ความเป็นส่วนตัวสูง ไม่มีสิ่งรบกวน: เช่น ไม่มีคอมเมนต์จากคนอื่น หรือการแจ้งเตือนต่าง ๆ เด้งขึ้นมา ทำให้ผู้เรียนสามารถใช้สมาธิกับการเรียนได้เต็มที่
และทั้งหมดนี้ก็คือข้อดีของการเรียนกับระบบ Learning Management System เราก็หวังว่าผู้ที่เรียนทุกท่านจะใช้จุดเด่นต่างๆ อย่างครบถ้วน เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ในการเรียนออกมาดีที่สุด
บทความอื่นๆ ที่น่าสนใจ
4 ขั้นตอนจัดการหนี้ ให้ตรงจุด และมีเงินออมหลังปลดหนี้
แก้ปัญหา 5 ข้อของการตลาดออนไลน์ ที่มักถูกมองข้าม
เราได้รวบรวมจุดเด่น 6 ข้อของระบบ Learning Management System มาเปรียบเทียบให้เห็นความต่างกับการเรียนผ่านแพลตฟอร์มอื่นๆ ดังนี้
-เก็บประวัติผู้เรียน: การเรียนผ่านระบบการจัดการเรียนรู้ นั้นข้อมูลประวัติการเรียนทั้งหมดจะถูกเก็บในระบบ เช่น ลงเรียนไว้กี่วิชา และแต่ละวิชาเรียนถึงบทไหน ทำให้ผู้เรียนไม่ต้องกังวลว่าจะลืม ขณะที่การเรียนออนไลน์ผ่านช่องทางอื่นๆ จะต้องจดจำเองทั้งหมด
-ง่ายต่อการเรียนซ้ำ: คอร์สเรียนส่วนมากจะลงคลิปยาว ทำให้ยากต่อการย้อนกลับไปเรียนซ้ำในจุดที่ยังไม่เข้าใจ ขณะที่ระบบการจัดการเรียนรู้ นั้นสามารถแบ่งบทเรียนออกมาเป็นเพลย์ลิส ทำให้ง่ายต่อการเรียนซ้ำเฉพาะส่วนที่ยังไม่เข้าใจ และไม่ต้องกังวลว่าบทเรียนที่เรียนผ่านไปแล้วจะหายไปจากระบบ
-แทรกเอกสารลงในบทเรียนได้: อีกความโดดเด่นของระบบการจัดการเรียนรู้ คือนอกจากเพลย์ลิสจะมีบทเรียนวิดีโอแล้ว ยังสามารถแทรก Presentation ที่ใช้ในบทเรียน ให้ผู้เรียนดาวน์โหลดเก็บเอาไว้ได้อีกด้วย
-ช่วยให้ผู้เรียนได้คิดตามบทเรียน: การเรียนออนไลน์ส่วนมาก เราจะแค่ฟัง และจบไป แต่ในระบบการจัดการเรียนรู้ สามารถออกแบบระบบให้ผู้เรียนสามารถทำ “แบบฝึกหัด” ขณะเรียนได้เลย โดยระบบจะหยุดคลิปอัตโนมัติเพื่อให้ผู้เรียนได้คิด และลองทำแบบฝึกหัด เมื่อทำเสร็จก็สามารถกดเรียนต่อ เพื่อฟังผู้สอนเฉลยคำตอบได้
-มั่นใจว่าได้ประโยชน์หลังการเรียน: ระบบสามารถดูความคืบหน้าของผู้เข้าเรียนได้ ว่า เรียนถึงบทไหน และได้ทำแบบฝึกหัดในแต่ละบทไหม และนำไปวิเคราะห์ได้ว่านักเรียนเข้าใจบทเรียนหรือไม่
-ความเป็นส่วนตัวสูง ไม่มีสิ่งรบกวน: เช่น ไม่มีคอมเมนต์จากคนอื่น หรือการแจ้งเตือนต่าง ๆ เด้งขึ้นมา ทำให้ผู้เรียนสามารถใช้สมาธิกับการเรียนได้เต็มที่
และทั้งหมดนี้ก็คือข้อดีของการเรียนกับระบบ Learning Management System เราก็หวังว่าผู้ที่เรียนทุกท่านจะใช้จุดเด่นต่างๆ อย่างครบถ้วน เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ในการเรียนออกมาดีที่สุด
บทความอื่นๆ ที่น่าสนใจ
4 ขั้นตอนจัดการหนี้ ให้ตรงจุด และมีเงินออมหลังปลดหนี้
แก้ปัญหา 5 ข้อของการตลาดออนไลน์ ที่มักถูกมองข้าม
อัปเดตคอร์สใหม่และส่วนลดคอร์สต่างๆ
Thank you!
Policy Pages
Copyright © 2022
รับสิทธิพิเศษก่อนใคร แอดไลน์ @shiftyourfuture