ธนพนธ์ รงรอง
งานยากของพ่อแม่และผู้ปกครอง ‘เลี้ยงลูกยังไงให้เป็นคนเก่ง’ เริ่มได้ง่ายๆ ด้วยการสื่อสารกับลูกในเชิงบวกทุกๆ วัน
การเลี้ยงลูกเป็นงานที่ยากที่สุดในโลกอย่างหนึ่งสำหรับคนเป็นพ่อแม่และผู้ปกครอง ทั้งยังเป็นงานที่คุณอาจไม่ได้เตรียมตัวมาก่อนด้วยเช่นกัน โดยเฉพาะในการส่งเสริมศักยภาพหรือพูดง่ายๆ ว่า การทำให้ลูกเก่ง รวมถึงสร้างความสัมพันธ์อันดีในครอบครัว
และเพื่อให้พ่อแม่และผู้ปกครองได้เสริมทักษะการเลี้ยงลูก (โดยต่อไปนี้จะใช้คำว่า 'พ่อแม่' แทนทั้งคนเป็นพ่อแม่และผู้ปกครอง) ทางทีมงาน SHiFT ขอนำเสนอวิธีการสื่อสารกับลูกให้ลูกเป็นคนเก่งที่จะมีผลกับความสำเร็จในชีวิตของลูกและได้ความสัมพันธ์ที่ดีในครอบครัวด้วย โดยอ้างอิงข้อมูลจากเว็บไซต์ KidsHealth ของ The Nemours Foundation หนึ่งในมูลนิธีเพื่อการเลี้ยงเด็กระดับนานาชาติ
จากหลายๆ กรณี พ่อแม่เคยหยุดคิดไหมว่า คุณตอบสนองด้านลบต่อเด็กกี่ครั้งในแต่ละวัน คุณอาจพบว่า ตัวเองวิพากษ์วิจารณ์บ่อยเกินกว่าชื่นชม กลับกัน ลองย้อนถามตัวคุณเอง คุณจะรู้สึกยังไงหากคุณถูกหัวหน้างานปฏิบัติกับคุณด้วยคำแนะนำเชิงลบบ่อยๆ แม้ว่ามันจะเป็นเจตนาที่ดีก็ตาม
วิธีที่มีประสิทธิภาพมากกว่าในการตอบสนองลูก คือ การชื่นชมและการแนะนำในเชิงบวก หรือพูดถึงสิ่งที่พวกเขาทำในทางที่ไม่เป็นเชิงลบแม้ว่าพ่อแม่จะไม่ชอบพฤติกรรมนั้นของลูกก็ตาม ตัวอย่างเช่น
- "ลูกมาจัดเตียงทั้งที่ไม่มีใครขอ ดีจังเลย" แม้คุณจะเห็นว่าลูกคุณจัดเตียงได้พังมากก็ตาม (ในกรณีที่ลูกยังเด็กอยู่)
- "ลูกทำคะแนนสอบวิชาคณิตฯ ได้ไม่ค่อยดีเท่าไรนะ... แต่ป๊าก็แอบเห็น ลูกทำคะแนนสอบวิชาภาษาอังกฤษและประวัติศาสตร์ได้เยอะเชียว เก่งมากนะ" แม้ในใจคุณอาจจะอยากให้ลูกทำคะแนนวิชาคณิตฯ ได้ดีด้วย แต่คุณก็เลือกที่จะสนับสนุนลูกในทางที่ลูกถนัด
- "ลูกวาดรูปเสร็จแล้วหรอ สวยดีนะ ลองเพิ่มสีส้มตรงนี้หน่อยดีไหม ลูกคิดว่าไง" แม้คุณชื่นชมผลงานวาดรูปของลูก แต่คุณก็คิดว่ามันยังไม่สมบูรณ์นัก จึงเสนอให้ลูกเพิ่มเติมบางอย่าง แต่ก็ให้เขาเป็นคนที่ตัดสินใจเอง เพราะมันเป็นผลงานของเขา
เป็นต้น
คำพูดลักษณะนี้จะช่วยส่งเสริมพฤติกรรมที่ดีและทำให้ลูกมั่นใจและเชื่อมั่นในตัวเองมากขึ้น ตลอดจนพวกเขาจะพร้อมทำสิ่งต่างๆ ให้ดียิ่งขึ้นได้ในระยะยาว ซึ่งจะส่งผลต่อความสำเร็จในชีวิตด้วย นอกจากนี้ คำพูดในเชิงบวกยังดีกว่าการที่เอาแต่ตำหนิในเชิงลบและชื่นชมเพียงแต่น้อย ซึ่งจะส่งผลให้ลูกไม่พัฒนาตัวเองและขาดความมั่นใจไป และมากไปกว่านั้น พวกเขาอาจจะรู้สึกไม่ผูกพันธ์กับคนที่เป็นพ่อแม่ได้
ดังนั้น พ่อแม่ควรหาเรื่องน่ายกย่องลูกในทุกๆ วัน ให้รางวัลลูกอย่างคนใจกว้าง ความรัก การกอด และการชมเชยของพ่อแม่เป็นปัจจัยสำคัญต่อความสำเร็จในอนาคตของลูก อาจเรียกได้ว่า มันเป็นสิ่งมหัศจรรย์และเป็นรางวัลที่มากเพียงพอแล้วสำหรับลูกที่กำลังจะเติบโตขึ้นไปมีอนาคตเป็นของตัวเองและผูกพันธ์กับพ่อแม่และครอบครัวในระยะยาวด้วย
สำหรับพ่อแม่หรือคนที่กำลังเตรียมตัวเป็นพ่อแม่ท่านใดที่ต้องการที่จะยกระดับทักษะและความสามารถในการเลี้ยงลูกให้ดียิ่งๆ ขึ้นไปอีก ทาง SHiFT ขอนำเสนอคอร์สเรียนออนไลน์ ‘เทคนิคเล่นกับลูก เสริมสร้างพัฒนาการเด็ก How to PLAY with Kids’ สอนโดยนพปฎล เทือกสุบรรณ และวรุตม์ เหลืองวัฒนากิจ สองผู้ร่วมก่อตั้ง KIDative Design Lab for Kids และเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านพัฒนาการเด็กระดับแนวหน้าของไทย
และเพื่อให้พ่อแม่และผู้ปกครองได้เสริมทักษะการเลี้ยงลูก (โดยต่อไปนี้จะใช้คำว่า 'พ่อแม่' แทนทั้งคนเป็นพ่อแม่และผู้ปกครอง) ทางทีมงาน SHiFT ขอนำเสนอวิธีการสื่อสารกับลูกให้ลูกเป็นคนเก่งที่จะมีผลกับความสำเร็จในชีวิตของลูกและได้ความสัมพันธ์ที่ดีในครอบครัวด้วย โดยอ้างอิงข้อมูลจากเว็บไซต์ KidsHealth ของ The Nemours Foundation หนึ่งในมูลนิธีเพื่อการเลี้ยงเด็กระดับนานาชาติ
จากหลายๆ กรณี พ่อแม่เคยหยุดคิดไหมว่า คุณตอบสนองด้านลบต่อเด็กกี่ครั้งในแต่ละวัน คุณอาจพบว่า ตัวเองวิพากษ์วิจารณ์บ่อยเกินกว่าชื่นชม กลับกัน ลองย้อนถามตัวคุณเอง คุณจะรู้สึกยังไงหากคุณถูกหัวหน้างานปฏิบัติกับคุณด้วยคำแนะนำเชิงลบบ่อยๆ แม้ว่ามันจะเป็นเจตนาที่ดีก็ตาม
วิธีที่มีประสิทธิภาพมากกว่าในการตอบสนองลูก คือ การชื่นชมและการแนะนำในเชิงบวก หรือพูดถึงสิ่งที่พวกเขาทำในทางที่ไม่เป็นเชิงลบแม้ว่าพ่อแม่จะไม่ชอบพฤติกรรมนั้นของลูกก็ตาม ตัวอย่างเช่น
- "ลูกมาจัดเตียงทั้งที่ไม่มีใครขอ ดีจังเลย" แม้คุณจะเห็นว่าลูกคุณจัดเตียงได้พังมากก็ตาม (ในกรณีที่ลูกยังเด็กอยู่)
- "ลูกทำคะแนนสอบวิชาคณิตฯ ได้ไม่ค่อยดีเท่าไรนะ... แต่ป๊าก็แอบเห็น ลูกทำคะแนนสอบวิชาภาษาอังกฤษและประวัติศาสตร์ได้เยอะเชียว เก่งมากนะ" แม้ในใจคุณอาจจะอยากให้ลูกทำคะแนนวิชาคณิตฯ ได้ดีด้วย แต่คุณก็เลือกที่จะสนับสนุนลูกในทางที่ลูกถนัด
- "ลูกวาดรูปเสร็จแล้วหรอ สวยดีนะ ลองเพิ่มสีส้มตรงนี้หน่อยดีไหม ลูกคิดว่าไง" แม้คุณชื่นชมผลงานวาดรูปของลูก แต่คุณก็คิดว่ามันยังไม่สมบูรณ์นัก จึงเสนอให้ลูกเพิ่มเติมบางอย่าง แต่ก็ให้เขาเป็นคนที่ตัดสินใจเอง เพราะมันเป็นผลงานของเขา
เป็นต้น
คำพูดลักษณะนี้จะช่วยส่งเสริมพฤติกรรมที่ดีและทำให้ลูกมั่นใจและเชื่อมั่นในตัวเองมากขึ้น ตลอดจนพวกเขาจะพร้อมทำสิ่งต่างๆ ให้ดียิ่งขึ้นได้ในระยะยาว ซึ่งจะส่งผลต่อความสำเร็จในชีวิตด้วย นอกจากนี้ คำพูดในเชิงบวกยังดีกว่าการที่เอาแต่ตำหนิในเชิงลบและชื่นชมเพียงแต่น้อย ซึ่งจะส่งผลให้ลูกไม่พัฒนาตัวเองและขาดความมั่นใจไป และมากไปกว่านั้น พวกเขาอาจจะรู้สึกไม่ผูกพันธ์กับคนที่เป็นพ่อแม่ได้
ดังนั้น พ่อแม่ควรหาเรื่องน่ายกย่องลูกในทุกๆ วัน ให้รางวัลลูกอย่างคนใจกว้าง ความรัก การกอด และการชมเชยของพ่อแม่เป็นปัจจัยสำคัญต่อความสำเร็จในอนาคตของลูก อาจเรียกได้ว่า มันเป็นสิ่งมหัศจรรย์และเป็นรางวัลที่มากเพียงพอแล้วสำหรับลูกที่กำลังจะเติบโตขึ้นไปมีอนาคตเป็นของตัวเองและผูกพันธ์กับพ่อแม่และครอบครัวในระยะยาวด้วย
สำหรับพ่อแม่หรือคนที่กำลังเตรียมตัวเป็นพ่อแม่ท่านใดที่ต้องการที่จะยกระดับทักษะและความสามารถในการเลี้ยงลูกให้ดียิ่งๆ ขึ้นไปอีก ทาง SHiFT ขอนำเสนอคอร์สเรียนออนไลน์ ‘เทคนิคเล่นกับลูก เสริมสร้างพัฒนาการเด็ก How to PLAY with Kids’ สอนโดยนพปฎล เทือกสุบรรณ และวรุตม์ เหลืองวัฒนากิจ สองผู้ร่วมก่อตั้ง KIDative Design Lab for Kids และเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านพัฒนาการเด็กระดับแนวหน้าของไทย
อัปเดตคอร์สใหม่และส่วนลดคอร์สต่างๆ
Thank you!
Policy Pages
Copyright © 2022
รับสิทธิพิเศษก่อนใคร แอดไลน์ @shiftyourfuture