4 คุณสมบัติของผู้นำที่ประสบความสำเร็จ จาก บิลล์ เกตส์ (Bill Gates)
In Summary
บิลล์ เกตส์ (Bill Gates) นักธุรกิจและนักคิดชื่อดังเจ้าพ่อ Microsoft ก็เป็นหนึ่งในคนที่ช่ำชองและเห็นความสำเร็จมานักต่อนัก
คนที่มีแนวโน้มจะประสบความสำเร็จนั้น บางทีอาจเห็นได้จากคุณสมบัติที่เขามี และทำนายความสำเร็จได้ตั้งแต่ยังไม่เริ่ม
เขามองว่าผู้นำที่จะประสบความสำเร็จได้นั้นต้องมี 4 ข้อนี้ ได้แก่ อยากรู้อยากเห็นอยู่เสมอ สร้างพลังให้คนอื่นได้ รู้จักจุดอ่อนของตัวเอง และมอบหมายหน้าที่นั้นให้ผู้อื่น รู้จักจัดลำดับความสำคัญ และโฟกัสเรื่องที่สำคัญที่สุดเท่านั้น
การจะดูว่าใครจะประสบความสำเร็จในชีวิตนั้น บางครั้งอาจดูได้จากลักษณะนิสัยของเขา ตั้งแต่ยังไม่ลงมือทำอะไรด้วยซ้ำ เพราะคนที่ประสบความสำเร็จอยากยิ่งใหญ่ในโลกมักมีคุณสมบัติบางส่วนที่คล้าย ๆ กันอยู่ ซึ่งนั่นคือรากฐานสำคัญที่ทำให้คนเหล่านี้ประสบความสำเร็จ
บิลล์ เกตส์ (Bill Gates) เจ้าพ่อ Microsoft นักธุรกิจ ผู้นำ และนักคิดชื่อดังที่คือหนึ่งในคนที่มักจะให้บทเรียนที่น่าทึ่งกับผู้อื่นอยู่เสมอ เขาผ่านชีวิตมาอย่างช่ำชองและเห็นคนที่ประสบความสำเร็จมามากมาย และนี่คือ 4 คุณสมบัติที่บิลล์ เกตส์บอกเองเลยว่าเป็นคุณสมบัติของผู้นำที่ประสบความสำเร็จ
ใครมีแล้ว พัฒนาให้ดีขึ้น หาทางเพิ่มคุณสมบัติดีด้านอื่น ๆ ต่อไป ส่วนใครยังขาดข้อไหน นี่คือเวลาทองที่จะพัฒนาส่วนที่ขาด จะประสบความสำเร็จพลุแตกรึเปล่าอาจไม่รู้ แต่คุณสมบัติ 4 ข้อนี้สามารถทำให้คุณมีชีวิตที่ดีได้แน่นอน
1. อยากรู้อยากเห็นอยู่เสมอ
บิลล์ เกตส์ (Bill Gates) นักธุรกิจและนักคิดชื่อดังเจ้าพ่อ Microsoft ก็เป็นหนึ่งในคนที่ช่ำชองและเห็นความสำเร็จมานักต่อนัก
คนที่มีแนวโน้มจะประสบความสำเร็จนั้น บางทีอาจเห็นได้จากคุณสมบัติที่เขามี และทำนายความสำเร็จได้ตั้งแต่ยังไม่เริ่ม
เขามองว่าผู้นำที่จะประสบความสำเร็จได้นั้นต้องมี 4 ข้อนี้ ได้แก่ อยากรู้อยากเห็นอยู่เสมอ สร้างพลังให้คนอื่นได้ รู้จักจุดอ่อนของตัวเอง และมอบหมายหน้าที่นั้นให้ผู้อื่น รู้จักจัดลำดับความสำคัญ และโฟกัสเรื่องที่สำคัญที่สุดเท่านั้น
การจะดูว่าใครจะประสบความสำเร็จในชีวิตนั้น บางครั้งอาจดูได้จากลักษณะนิสัยของเขา ตั้งแต่ยังไม่ลงมือทำอะไรด้วยซ้ำ เพราะคนที่ประสบความสำเร็จอยากยิ่งใหญ่ในโลกมักมีคุณสมบัติบางส่วนที่คล้าย ๆ กันอยู่ ซึ่งนั่นคือรากฐานสำคัญที่ทำให้คนเหล่านี้ประสบความสำเร็จ
บิลล์ เกตส์ (Bill Gates) เจ้าพ่อ Microsoft นักธุรกิจ ผู้นำ และนักคิดชื่อดังที่คือหนึ่งในคนที่มักจะให้บทเรียนที่น่าทึ่งกับผู้อื่นอยู่เสมอ เขาผ่านชีวิตมาอย่างช่ำชองและเห็นคนที่ประสบความสำเร็จมามากมาย และนี่คือ 4 คุณสมบัติที่บิลล์ เกตส์บอกเองเลยว่าเป็นคุณสมบัติของผู้นำที่ประสบความสำเร็จ
ใครมีแล้ว พัฒนาให้ดีขึ้น หาทางเพิ่มคุณสมบัติดีด้านอื่น ๆ ต่อไป ส่วนใครยังขาดข้อไหน นี่คือเวลาทองที่จะพัฒนาส่วนที่ขาด จะประสบความสำเร็จพลุแตกรึเปล่าอาจไม่รู้ แต่คุณสมบัติ 4 ข้อนี้สามารถทำให้คุณมีชีวิตที่ดีได้แน่นอน
1. อยากรู้อยากเห็นอยู่เสมอ
ในปี 2019 ที่ผ่านมา บิลล์ได้ขึ้นบรรยายที่โรงเรียนเก่าของเขาที่ซีแอตเทิล เขาได้รับคำถามที่น่าสนใจมากคำถามหนึ่งจากนักเรียนในนั้น ““ทักษะอะไรที่นักเรียนในปัจจุบันจำเป็นต้องฝึกฝนเพื่อที่จะก้าวหน้าได้ในโลกการทำงานปี 2020-2040?”
บิลล์ตอบว่า “สำหรับนักเรียนรู้ที่เปี่ยมด้วยความอยากรู้อยากเห็น ช่วงเวลานี้เป็นเวลาทองของพวกคุณ พยายามหาความรู้ใหม่ๆ ให้ได้มากที่สุด ไม่ว่าจะผ่านพอดแคสต์หรือคอร์สออนไลน์ต่างๆ เพราะตอนนี้ช่องทางเหล่านี้ได้พัฒนามาได้อย่างมีคุณภาพมาก”
ซึ่งในการบรรยายครั้งนี้บิลล์ได้เน้นย้ำอย่างหนักถึงความสำคัญของการฝึกนิสัยอยากรู้อยากเห็น เพื่อที่จะได้เรียนรู้ทักษะความรู้ใหม่ๆ ที่เตรียมพร้อมรอเราอยู่ในทศวรรษแห่งความเปลี่ยนแปลงนี้
ความอยากรู้อยากเห็นเป็นพื้นฐานของความคิดแบบ Growth mindset การอยากรู้อยากเห็นและอยากเรียนรู้อยู่ตลอดเวลา ทำให้เราหาความรู้หาคำตอบอย่างไม่หยุดหย่อน ซึ่งการเรียนรู้อยู่เรื่อยๆ นี้ก็จะทำให้เราได้พัฒนาตัวเองอย่างก้าวไกลและเท่าทันโลก ซึ่งคนแบบนี้แหละจะอยู่รอดไม่ว่าโลกจะเปลี่ยนแปลงไปแค่ไหนก็ตาม
นอกจากในแง่ของการพัฒนาตัวเองแล้ว การเป็นคนอยากรู้อยากเห็นจะช่วยเติมเต็มชีวิตในด้านอื่นๆ ของเราอีกด้วย งานวิจัยหลากหลายงานแสดงให้เห็นว่าคนช่างสงสัยมักมีความสัมพันธ์ที่ดี เข้ากับคนง่าย และเป็นคนน่าที่น่าดึงดูดอีกด้วย
(อ่านบทความเกี่ยวกับการเป็นคนช่างสงสัยเพิ่มเติมได้ที่: https://shiftyourfuture.com/bill-gates-predicts-skills-for-the-future/)
2. สร้างพลังให้คนอื่นได้
บิลล์ตอบว่า “สำหรับนักเรียนรู้ที่เปี่ยมด้วยความอยากรู้อยากเห็น ช่วงเวลานี้เป็นเวลาทองของพวกคุณ พยายามหาความรู้ใหม่ๆ ให้ได้มากที่สุด ไม่ว่าจะผ่านพอดแคสต์หรือคอร์สออนไลน์ต่างๆ เพราะตอนนี้ช่องทางเหล่านี้ได้พัฒนามาได้อย่างมีคุณภาพมาก”
ซึ่งในการบรรยายครั้งนี้บิลล์ได้เน้นย้ำอย่างหนักถึงความสำคัญของการฝึกนิสัยอยากรู้อยากเห็น เพื่อที่จะได้เรียนรู้ทักษะความรู้ใหม่ๆ ที่เตรียมพร้อมรอเราอยู่ในทศวรรษแห่งความเปลี่ยนแปลงนี้
ความอยากรู้อยากเห็นเป็นพื้นฐานของความคิดแบบ Growth mindset การอยากรู้อยากเห็นและอยากเรียนรู้อยู่ตลอดเวลา ทำให้เราหาความรู้หาคำตอบอย่างไม่หยุดหย่อน ซึ่งการเรียนรู้อยู่เรื่อยๆ นี้ก็จะทำให้เราได้พัฒนาตัวเองอย่างก้าวไกลและเท่าทันโลก ซึ่งคนแบบนี้แหละจะอยู่รอดไม่ว่าโลกจะเปลี่ยนแปลงไปแค่ไหนก็ตาม
นอกจากในแง่ของการพัฒนาตัวเองแล้ว การเป็นคนอยากรู้อยากเห็นจะช่วยเติมเต็มชีวิตในด้านอื่นๆ ของเราอีกด้วย งานวิจัยหลากหลายงานแสดงให้เห็นว่าคนช่างสงสัยมักมีความสัมพันธ์ที่ดี เข้ากับคนง่าย และเป็นคนน่าที่น่าดึงดูดอีกด้วย
(อ่านบทความเกี่ยวกับการเป็นคนช่างสงสัยเพิ่มเติมได้ที่: https://shiftyourfuture.com/bill-gates-predicts-skills-for-the-future/)
2. สร้างพลังให้คนอื่นได้
ในฐานะซีอีโอของบริษัทยักษ์ใหญ่อย่าง Microsoft ที่ต้องเป็นผู้นำของพนักงานมากมาย บิลล์เคยกล่าวไว้ว่าคุณสมบัติที่ดีที่สุดที่ผู้นำในยุคนี้ต้องมีคือ ความสามารถในการสร้างพลังให้ผู้อื่น
จะเห็นได้ว่าในเรื่องราวของผู้นำระดับโลกมากมาย ผู้นำที่ดีนั้นล้วนสามารถสร้างพลังให้คนในบังคับบัญชามีแรงใจแรงกายสู้ต่อได้ ไม่ว่าจะเกิดวิกฤติที่หนักหนาแค่ไหนก็ตาม นอกจากนี้พวกเขายังต้องเตรียมพร้อมแก้ปัญหาทุกเรื่องที่เข้ามาในแต่ละวันและยอมทำทุกอย่างเพื่อปกป้องพนักงานและธุรกิจของพวกเขา
การจะสร้างพลังและเป็นที่พึ่งทางใจให้ผู้อื่นได้นั้น ผู้นำที่ดีต้องใส่ใจในพนักงานทุกคน รู้ว่าสภาวะในชีวิตแต่ละคนเป็นอย่างไร มีปัญหาทางด้านสุขภาพ จิตใจ หรือครอบครัวหรือไม่ เพื่อที่จะรับมือและดูแลทุกคนอย่างเหมาะสม
ซึ่งนี่คือหนึ่งในคุณสมบัติที่ตำราสอนการเป็นผู้นำที่ดีล้วนลิสต์ไว้ นั่นคือ “ความเห็นอกเห็นใจผู้อื่น” การแสดงความเห็นอกเห็นใจ และเข้าใจทุกคนนั้นจะนำไปสู่การเชื่อใจไว้ใจ เชื่อมั่นในตัวผู้นำ และทำให้ผู้นำสามารถสร้างพลังให้พนักงานได้ในที่สุด และนี่คือหนึ่งในคุณสมบัติของคนที่เป็นที่ต้องการที่สุดในช่วงเวลาไม่แน่นอนในทศวรรษนี้
3. รู้จักจุดอ่อนของตัวเอง และมอบหมายหน้าที่นั้นให้ผู้อื่น
จะเห็นได้ว่าในเรื่องราวของผู้นำระดับโลกมากมาย ผู้นำที่ดีนั้นล้วนสามารถสร้างพลังให้คนในบังคับบัญชามีแรงใจแรงกายสู้ต่อได้ ไม่ว่าจะเกิดวิกฤติที่หนักหนาแค่ไหนก็ตาม นอกจากนี้พวกเขายังต้องเตรียมพร้อมแก้ปัญหาทุกเรื่องที่เข้ามาในแต่ละวันและยอมทำทุกอย่างเพื่อปกป้องพนักงานและธุรกิจของพวกเขา
การจะสร้างพลังและเป็นที่พึ่งทางใจให้ผู้อื่นได้นั้น ผู้นำที่ดีต้องใส่ใจในพนักงานทุกคน รู้ว่าสภาวะในชีวิตแต่ละคนเป็นอย่างไร มีปัญหาทางด้านสุขภาพ จิตใจ หรือครอบครัวหรือไม่ เพื่อที่จะรับมือและดูแลทุกคนอย่างเหมาะสม
ซึ่งนี่คือหนึ่งในคุณสมบัติที่ตำราสอนการเป็นผู้นำที่ดีล้วนลิสต์ไว้ นั่นคือ “ความเห็นอกเห็นใจผู้อื่น” การแสดงความเห็นอกเห็นใจ และเข้าใจทุกคนนั้นจะนำไปสู่การเชื่อใจไว้ใจ เชื่อมั่นในตัวผู้นำ และทำให้ผู้นำสามารถสร้างพลังให้พนักงานได้ในที่สุด และนี่คือหนึ่งในคุณสมบัติของคนที่เป็นที่ต้องการที่สุดในช่วงเวลาไม่แน่นอนในทศวรรษนี้
3. รู้จักจุดอ่อนของตัวเอง และมอบหมายหน้าที่นั้นให้ผู้อื่น
ไม่ว่าใครก็ไม่สามารถทำทุกอย่างคนเดียวได้ตลอดเวลา ไม่ว่าคุณจะเก่งแค่ไหน แต่ถ้าหากคุณไม่รู้จักจุดอ่อนของตัวเอง และไม่รู้จักมอบหมายหน้าที่นั้นให้ผู้อื่น สุดท้ายจุดอ่อนนั้นจะวนกลับมาทำร้ายคุณ
ด้วยเหตุนี้หนึ่งในคุณสมบัติสำคัญที่ผู้นำทุกคนต้องมีคือความสามารถในการรู้จักจุดอ่อนของตนเอง และเลือกแบ่งงาน ส่งต่องานให้ผู้อื่นได้อย่างเหมาะสม
บิลล์เองก็เคยเล่าให้ฟังว่าในช่วงแรกๆ ที่เขาประสบความสำเร็จ เขาพบว่าการส่งต่องานให้คนอื่นนั้นไม่ง่ายเลย เพราะเขาก็อดห่วงไม่ได้ และมั่นใจในงานที่ตนทำมากกว่า แต่ในขณะเดียวกันเขาก็รู้ว่าเมื่อบริษัทขยายใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ ลำพังเขาคนเดียวก็คงไม่สามารถรับมืองานเขียนโปรแกรมทั้งหมดไหว เขาจึงต้องพยายามฝึกฝนเชื่อมั่น และเชื่อใจให้คนอื่นได้ทำแทนบ้าง
และนั่นทำให้เขาได้เรียนรู้ว่าหากเค้าไม่เข้าใจจุดอ่อนและขีดความสามารถของตัวเอง และแบ่งงานให้คนอื่นบ้าง รวมถึงเรียนรู้การมอบหมายงานให้ตรงตามจุดแข็งของพนักงานแต่ละคน Microsoft คงไม่มีทางประสบความสำเร็จจนถึงทุกวันนี้ และก็คงจะล่มไปพร้อมกับความกังวลของตัวเขาเองที่ไม่ยอมให้ใครทำอะไรแทน
4. รู้จักจัดลำดับความสำคัญ และโฟกัสเรื่องที่สำคัญที่สุดเท่านั้น
ด้วยเหตุนี้หนึ่งในคุณสมบัติสำคัญที่ผู้นำทุกคนต้องมีคือความสามารถในการรู้จักจุดอ่อนของตนเอง และเลือกแบ่งงาน ส่งต่องานให้ผู้อื่นได้อย่างเหมาะสม
บิลล์เองก็เคยเล่าให้ฟังว่าในช่วงแรกๆ ที่เขาประสบความสำเร็จ เขาพบว่าการส่งต่องานให้คนอื่นนั้นไม่ง่ายเลย เพราะเขาก็อดห่วงไม่ได้ และมั่นใจในงานที่ตนทำมากกว่า แต่ในขณะเดียวกันเขาก็รู้ว่าเมื่อบริษัทขยายใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ ลำพังเขาคนเดียวก็คงไม่สามารถรับมืองานเขียนโปรแกรมทั้งหมดไหว เขาจึงต้องพยายามฝึกฝนเชื่อมั่น และเชื่อใจให้คนอื่นได้ทำแทนบ้าง
และนั่นทำให้เขาได้เรียนรู้ว่าหากเค้าไม่เข้าใจจุดอ่อนและขีดความสามารถของตัวเอง และแบ่งงานให้คนอื่นบ้าง รวมถึงเรียนรู้การมอบหมายงานให้ตรงตามจุดแข็งของพนักงานแต่ละคน Microsoft คงไม่มีทางประสบความสำเร็จจนถึงทุกวันนี้ และก็คงจะล่มไปพร้อมกับความกังวลของตัวเขาเองที่ไม่ยอมให้ใครทำอะไรแทน
4. รู้จักจัดลำดับความสำคัญ และโฟกัสเรื่องที่สำคัญที่สุดเท่านั้น
บิลล์เปิดเผยว่าเขาได้เรียนรู้ข้อคิดเรื่องนี้มาจากวอร์เรน บัฟเฟตต์ (Warren Buffet) เพื่อนรักและครูชั้นเยี่ยมของเขา ซึ่งข้อคิดดังกล่าวคือ “ไม่ว่าคุณจะมีเงินมากแค่ไหน คุณก็ไม่สามารถซื้อเวลาได้ ไม่ว่าอย่างไรในหนึ่งวันก็จะมีแค่ 24 ชั่วโมงเท่านั้น”
ซึ่งบิลล์ก็ได้นำข้อคิดนี้มาปรับใช้ เขามองว่าหนึ่งในคุณสมบัติของผู้นำที่ดีคือการรู้จักจัดลำดับความสำคัญ และรู้ว่าอะไรที่ควรโฟกัส และตัดเรื่องที่ไม่จำเป็นออกไป ไม่ว่าจะเป็นการประชุมที่ไม่สำคัญ ไอเดียที่ทำไม่ได้จริง หรือความคิดเห็นที่ไม่ช่วยให้อะไรดีขึ้น เราต้องหมั่นถามตัวเองอยู่เสมอว่าเรื่องที่กำลังทำอยู่นี่สำคัญจริงๆ มั้ย?
เราต้องรู้ว่าเวลาของเรามีค่าแค่ไหน ใช้เวลาในแต่ละวันให้เกิดผลดีที่สุด จัดการเวลาให้ดี เน้นทุ่มเวลาและโฟกัสของเราไปกับเรื่องที่สำคัญที่สุดในขณะนั้นก่อน อย่างอื่นค่อยว่ากันที่หลัง
Source
Medium
ซึ่งบิลล์ก็ได้นำข้อคิดนี้มาปรับใช้ เขามองว่าหนึ่งในคุณสมบัติของผู้นำที่ดีคือการรู้จักจัดลำดับความสำคัญ และรู้ว่าอะไรที่ควรโฟกัส และตัดเรื่องที่ไม่จำเป็นออกไป ไม่ว่าจะเป็นการประชุมที่ไม่สำคัญ ไอเดียที่ทำไม่ได้จริง หรือความคิดเห็นที่ไม่ช่วยให้อะไรดีขึ้น เราต้องหมั่นถามตัวเองอยู่เสมอว่าเรื่องที่กำลังทำอยู่นี่สำคัญจริงๆ มั้ย?
เราต้องรู้ว่าเวลาของเรามีค่าแค่ไหน ใช้เวลาในแต่ละวันให้เกิดผลดีที่สุด จัดการเวลาให้ดี เน้นทุ่มเวลาและโฟกัสของเราไปกับเรื่องที่สำคัญที่สุดในขณะนั้นก่อน อย่างอื่นค่อยว่ากันที่หลัง
Source
Medium
อัปเดตคอร์สใหม่และส่วนลดคอร์สต่างๆ
Thank you!
Policy Pages
Copyright © 2022
รับสิทธิพิเศษก่อนใคร แอดไลน์ @shiftyourfuture