31 Days Productivity Challenge แจกตารางภารกิจเพิ่ม Productivity ใน 31 วัน
In Summary
เพราะฉะนั้นวันนี้ SHiFT Your Future เลยอยากเป็นผู้ช่วยคุณ ด้วยตารางเพิ่ม Productivity ใน 31 วัน ลองมาทำตามชาเลนจ์นี้กัน ไม่ยากเลยแค่ทำสิ่งที่ตารางบอกวันละหนึ่งอย่าง หากอันไหนทำแล้วติดใจก็ทำต่อไปเรื่อยๆ ได้ อันไหนไม่ใช่ ก็ถือว่าได้ลอง การเริ่มสร้างความเปลี่ยนแปลงให้ตัวเองด้วยก้าวเล็กๆ เริ่มด้วยการทำวันละ 1 อย่างแบบนี้จะทำให้คุณไม่รู้สึกว่าการเปลี่ยนตัวเองนั้นยากจนเกินไป คุณจะไม่ท้อง่ายๆ และก้าวเล็กๆ เหล่านี้จะนำไปสู่ความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่ เปลี่ยนคุณเป็นคนใหม่ที่โปรดักทีฟกว่าเดิม
แน่นอนว่าการเปลี่ยนตัวเองเป็นคนโปรดีกทีฟนั้นไม่ง่าย แต่ถ้าทำได้ รับรองว่าคุณจะมีชีวิตที่มีความสุขขึ้นอีกเยอะ เราขอเป็นกำลังใจให้นะครับ
- หลายคนอยากเป็นคนโปรดักทีฟที่ในหนึ่งวันใช้เวลาได้คุ้มค่า และมีความสุข แต่อาจจะไม่รู้ว่าควรเริ่มเปลี่ยนตัวเองอย่างไร
- SHiFT Your Future ขอช่วยทุกคนด้วยการแจกตาราง 31 Days Productivity Challenge เพิ่ม Productivity ใน 31 วัน
- ลองทำตามนี้ให้ได้ 31 วัน แล้วคุณจะเห็นความเปลี่ยนแปลงที่ดีขึ้น ไม่มากก็น้อย
เพราะฉะนั้นวันนี้ SHiFT Your Future เลยอยากเป็นผู้ช่วยคุณ ด้วยตารางเพิ่ม Productivity ใน 31 วัน ลองมาทำตามชาเลนจ์นี้กัน ไม่ยากเลยแค่ทำสิ่งที่ตารางบอกวันละหนึ่งอย่าง หากอันไหนทำแล้วติดใจก็ทำต่อไปเรื่อยๆ ได้ อันไหนไม่ใช่ ก็ถือว่าได้ลอง การเริ่มสร้างความเปลี่ยนแปลงให้ตัวเองด้วยก้าวเล็กๆ เริ่มด้วยการทำวันละ 1 อย่างแบบนี้จะทำให้คุณไม่รู้สึกว่าการเปลี่ยนตัวเองนั้นยากจนเกินไป คุณจะไม่ท้อง่ายๆ และก้าวเล็กๆ เหล่านี้จะนำไปสู่ความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่ เปลี่ยนคุณเป็นคนใหม่ที่โปรดักทีฟกว่าเดิม
แน่นอนว่าการเปลี่ยนตัวเองเป็นคนโปรดีกทีฟนั้นไม่ง่าย แต่ถ้าทำได้ รับรองว่าคุณจะมีชีวิตที่มีความสุขขึ้นอีกเยอะ เราขอเป็นกำลังใจให้นะครับ
1. เริ่มตรวจสอบตัวเองว่าในแต่ละวันคุณทำกิจกรรมอะไรบ้าง
ก้าวแรกสู่เส้นทางของเปลี่ยนตัวเองใหม่ให้เป็นคนที่โปรดักทีฟมากกว่าเดิมคือการตรวจสอบตัวเองก่อนว่าในแต่ละวันคุณทำอะไรบ้าง และใช้เวลากับอะไรเยอะที่สุด และดูว่ากิจกรรมแต่ละอย่างทำให้คุณบรรลุเป้าหมายที่ตั้งไว้ได้มั้ย หรือกิจกรรมเหล่านั้นถ่วงคุณโดยไม่รู้ตัว
2. กำหนดเป้าหมายและจัดลำดับความสำคัญให้ชัด
เราเข้าใจว่าทุกคนล้วนมีสิ่งที่อยากทำเยอะแยะไปหมด เหมือนว่าเรามี 10 มือและมีเวลาวันละ 48 ชั่วโมง แต่การจะทำอะไรสักอย่างให้ประสบความสำเร็จนั้น ต้องอาศัยการจัดลำดับความสำคัญของเป้าหมาย บางทีการมีเป้าหมายเยอะเกินไปอาจเป็นอีกเหตุผลที่ทำให้คุณยังไม่สามารถทำอะไรเป็นชิ้นเป็นอัน จัดลำดับความสำคัญ และโฟกัสที่สิ่งสำคัญก่อนนะ
3. ดื่มน้ำทันทีหลังตื่นนอน
นี่เป็นสิ่งที่ง่ายมาก แต่เชื่อเถอะว่าชีวิตอันเร่งรีบอาจทำให้คุณลืมทำสิ่งที่ง่ายแต่สำคัญนี้ไป การดื่มน้ำหลังตื่นนอนนอกจากจะดีต่อสุขภาพแล้ว ยังทำให้คุณตื่นเต็มตาอีกด้วย
4. เลือกหนึ่งงานที่สำคัญที่สุดของวันและลงมือทำให้เสร็จ
หลายคนอาจเจอภาวะงานสุมหัวจนเลือกไม่ถูกว่าจะทำอะไรก่อนดี สุดท้ายก็หมดวันโดยที่งานที่สำคัญจริงๆ ยังไม่เสร็จ มันน่าเศร้าเนอะ แต่เราหาทางแก้มาให้คุณแล้ว ตื่นมาแล้วตั้งเป้าไว้เลยว่าวันนี้สิ่งที่สำคัญที่สุด 1 อย่างที่ต้องทำให้เสร็จคืออะไร เสร็จแล้วงานอื่นค่อยว่ากันเนอะ
5. จัดโต๊ะทำงาน
เราเข้าใจว่าบางวันคุณอาจยุ่งจนไม่มีเวลาจัดระเบียบสิ่งของบนโต๊ะ แต่หลังจากนี้ก่อนเริ่มทำงาน ลองสละเวลาสักสองนาที หยิบนู่นจัดนี่ให้เข้าที่เข้าทาง เชื่อเถอะว่าโต๊ะทำงานเรียบร้อยสะอาดตา จะทำให้คุณทำงานได้มีประสิทธิภาพขึ้นเยอะ
6. ตั้งนาฬิกาปลุกให้เร็วขึ้นสัก 15 นาที
ลองตื่นให้เร็วกว่าเดิมอีกสัก 15 นาทีเพื่อเพิ่มเวลาทำเรื่องดีๆ ตอนเช้า เช่น ออกกำลังกายยืดเส้นยืดสายเบาๆ หรือกินมื้อเช้าได้แบบไม่เร่งรีบ ถ้าชินแล้วก็ลองเพิ่มอีก 15 นาทีไปเรื่อยๆ เช้าที่สดใสและไม่เร่งรีบจะทำให้วันของคุณดีกว่าเดิม
7. กำหนดงานหลัก 5 งานในสัปดาห์
คุณคงพอเห็นภาพกันแล้วว่าการจัดลำดับความสำคัญของงานนั้นสำคัญต่อประสิทธิภาพการทำงานขนาดไหน ลองเลือกงานหลักที่สำคัญที่สุด 5 งานที่คุณจะทำในสัปดาห์นั้น 5 งาน หากไม่รู้จะเลือกยังไง ลองเลือกจากกฎ 80/20 เลือกงานหลัก ๆ แค่ 20 เปอร์เซ็นต์ของงานทั้งหมดที่ทำแล้วจะส่งผลสำเร็จถึง 80 เปอร์เซ็นต์ หากใครยังไม่เห็นภาพ ลองอ่านเพิ่มเติมเกี่ยวกับกฎนี้ได้ที่ https://bit.ly/3b9Xpim
8. เช็คอีเมลแค่ 2 ครั้งต่อวัน
การแวบไปเช็คอีเมลทุกชั่วโมงนั้นทำให้คุณเสียเวลาทำงานสำคัญๆ ไปโดยไม่จำเป็นเลย ลองลดการเช็คอีเมลให้เหลือแค่ 2 ครั้งต่อวันดู และบอกทีมไว้เล็กน้อยว่าหากใครมีเรื่องด่วนจริงๆ ให้โทรมาหาคุณแทน แบบนี้จะได้ไม่เสียงานด้วยนะ
9. หาเวลาพักที่ไร้สิ่งรบกวนจริงๆ สัก 1 ครั้งระหว่างวัน
การทำงานหัวหมุนมาแล้วหลายชั่วโมงย่อมทำให้ประสิทธิภาพการทำงานของคุณลดลงอย่างไม่ต้องสงสัยเลย ลองจัดเวลาสักครึ่งชั่วโมงชั่วพักกลางวันให้เป็นเวลาที่คุณได้อยู่นิ่งๆ พักสมองกับตัวเองคนเดียวจริงๆ วิธีนี้จะทำให้คุณมีแรงทำงานที่เหลือตลอดทั้งบ่ายอย่างมีประสิทธิภาพ
10. สร้าง Playlist ปลุกใจที่กระตุ้นแรงทำงานของคุณ
เราทุกคนต่างมีเพลงที่ฟังแล้วฮึกเหิม ฟังแล้วมีสมาธิ ฟังแล้วอยากทำงาน จะฮิปฮอป ป๊อป ร็อก จัดมาเลยตามที่คุณชอบ นอกจากจะทำให้คุณโปรดักทีฟขึ้นแล้ว ยังทำให้คุณอารมณ์ดีขึ้นอีกด้วย
ก้าวแรกสู่เส้นทางของเปลี่ยนตัวเองใหม่ให้เป็นคนที่โปรดักทีฟมากกว่าเดิมคือการตรวจสอบตัวเองก่อนว่าในแต่ละวันคุณทำอะไรบ้าง และใช้เวลากับอะไรเยอะที่สุด และดูว่ากิจกรรมแต่ละอย่างทำให้คุณบรรลุเป้าหมายที่ตั้งไว้ได้มั้ย หรือกิจกรรมเหล่านั้นถ่วงคุณโดยไม่รู้ตัว
2. กำหนดเป้าหมายและจัดลำดับความสำคัญให้ชัด
เราเข้าใจว่าทุกคนล้วนมีสิ่งที่อยากทำเยอะแยะไปหมด เหมือนว่าเรามี 10 มือและมีเวลาวันละ 48 ชั่วโมง แต่การจะทำอะไรสักอย่างให้ประสบความสำเร็จนั้น ต้องอาศัยการจัดลำดับความสำคัญของเป้าหมาย บางทีการมีเป้าหมายเยอะเกินไปอาจเป็นอีกเหตุผลที่ทำให้คุณยังไม่สามารถทำอะไรเป็นชิ้นเป็นอัน จัดลำดับความสำคัญ และโฟกัสที่สิ่งสำคัญก่อนนะ
3. ดื่มน้ำทันทีหลังตื่นนอน
นี่เป็นสิ่งที่ง่ายมาก แต่เชื่อเถอะว่าชีวิตอันเร่งรีบอาจทำให้คุณลืมทำสิ่งที่ง่ายแต่สำคัญนี้ไป การดื่มน้ำหลังตื่นนอนนอกจากจะดีต่อสุขภาพแล้ว ยังทำให้คุณตื่นเต็มตาอีกด้วย
4. เลือกหนึ่งงานที่สำคัญที่สุดของวันและลงมือทำให้เสร็จ
หลายคนอาจเจอภาวะงานสุมหัวจนเลือกไม่ถูกว่าจะทำอะไรก่อนดี สุดท้ายก็หมดวันโดยที่งานที่สำคัญจริงๆ ยังไม่เสร็จ มันน่าเศร้าเนอะ แต่เราหาทางแก้มาให้คุณแล้ว ตื่นมาแล้วตั้งเป้าไว้เลยว่าวันนี้สิ่งที่สำคัญที่สุด 1 อย่างที่ต้องทำให้เสร็จคืออะไร เสร็จแล้วงานอื่นค่อยว่ากันเนอะ
5. จัดโต๊ะทำงาน
เราเข้าใจว่าบางวันคุณอาจยุ่งจนไม่มีเวลาจัดระเบียบสิ่งของบนโต๊ะ แต่หลังจากนี้ก่อนเริ่มทำงาน ลองสละเวลาสักสองนาที หยิบนู่นจัดนี่ให้เข้าที่เข้าทาง เชื่อเถอะว่าโต๊ะทำงานเรียบร้อยสะอาดตา จะทำให้คุณทำงานได้มีประสิทธิภาพขึ้นเยอะ
6. ตั้งนาฬิกาปลุกให้เร็วขึ้นสัก 15 นาที
ลองตื่นให้เร็วกว่าเดิมอีกสัก 15 นาทีเพื่อเพิ่มเวลาทำเรื่องดีๆ ตอนเช้า เช่น ออกกำลังกายยืดเส้นยืดสายเบาๆ หรือกินมื้อเช้าได้แบบไม่เร่งรีบ ถ้าชินแล้วก็ลองเพิ่มอีก 15 นาทีไปเรื่อยๆ เช้าที่สดใสและไม่เร่งรีบจะทำให้วันของคุณดีกว่าเดิม
7. กำหนดงานหลัก 5 งานในสัปดาห์
คุณคงพอเห็นภาพกันแล้วว่าการจัดลำดับความสำคัญของงานนั้นสำคัญต่อประสิทธิภาพการทำงานขนาดไหน ลองเลือกงานหลักที่สำคัญที่สุด 5 งานที่คุณจะทำในสัปดาห์นั้น 5 งาน หากไม่รู้จะเลือกยังไง ลองเลือกจากกฎ 80/20 เลือกงานหลัก ๆ แค่ 20 เปอร์เซ็นต์ของงานทั้งหมดที่ทำแล้วจะส่งผลสำเร็จถึง 80 เปอร์เซ็นต์ หากใครยังไม่เห็นภาพ ลองอ่านเพิ่มเติมเกี่ยวกับกฎนี้ได้ที่ https://bit.ly/3b9Xpim
8. เช็คอีเมลแค่ 2 ครั้งต่อวัน
การแวบไปเช็คอีเมลทุกชั่วโมงนั้นทำให้คุณเสียเวลาทำงานสำคัญๆ ไปโดยไม่จำเป็นเลย ลองลดการเช็คอีเมลให้เหลือแค่ 2 ครั้งต่อวันดู และบอกทีมไว้เล็กน้อยว่าหากใครมีเรื่องด่วนจริงๆ ให้โทรมาหาคุณแทน แบบนี้จะได้ไม่เสียงานด้วยนะ
9. หาเวลาพักที่ไร้สิ่งรบกวนจริงๆ สัก 1 ครั้งระหว่างวัน
การทำงานหัวหมุนมาแล้วหลายชั่วโมงย่อมทำให้ประสิทธิภาพการทำงานของคุณลดลงอย่างไม่ต้องสงสัยเลย ลองจัดเวลาสักครึ่งชั่วโมงชั่วพักกลางวันให้เป็นเวลาที่คุณได้อยู่นิ่งๆ พักสมองกับตัวเองคนเดียวจริงๆ วิธีนี้จะทำให้คุณมีแรงทำงานที่เหลือตลอดทั้งบ่ายอย่างมีประสิทธิภาพ
10. สร้าง Playlist ปลุกใจที่กระตุ้นแรงทำงานของคุณ
เราทุกคนต่างมีเพลงที่ฟังแล้วฮึกเหิม ฟังแล้วมีสมาธิ ฟังแล้วอยากทำงาน จะฮิปฮอป ป๊อป ร็อก จัดมาเลยตามที่คุณชอบ นอกจากจะทำให้คุณโปรดักทีฟขึ้นแล้ว ยังทำให้คุณอารมณ์ดีขึ้นอีกด้วย
11. ขอทริกเพิ่ม Productivity จากไอดอลของคุณมา 1 ข้อ
อะไรจะดีไปกว่าการได้เคล็ดลับดีๆ จากไอดอลของเราเอง ไม่ว่าจะเป็นเพื่อนร่วมงานสุดเท่ หรือบอสคนเก่งของคุณ ลองไปขอคำแนะนำจากเขา ให้เขาเลือกทริกมาสักหนึ่งข้อ แล้วลองมาปรับใช้กับตัวเองดู เผื่อจะได้มุมมองที่คุณไม่เคยคิดมาก่อน
12. ชวนเพื่อนมาร่วมภารกิจนี้ด้วยกัน
หนึ่งคนหัวหายสองคนเพื่อนตาย ลองหาเพื่อนสนิทที่คุณไว้ใจ หรือคนที่คุณคุยด้วยแล้วสบายใจ ชวนเขามาทำภารกิจนี้ด้วยกัน จะได้มีคนไว้แลกเปลี่ยนความเห็นและคอยให้กำลังใจกัน
13. นั่งสมาธิสัก 10 นาที
จะเช้า สาย บ่าย เย็น เวลาไหนก็ได้ที่คุณสะดวก ลองนั่งหลับตานิ่งๆ สัก 10 นาที เคลียร์เรื่องราวต่างๆ ในหัว หากสามารถทำได้เป็นนิสัย คุณจะมีสมาธิในการทำงานมากขึ้นแน่นอน
14.ให้รางวัลตัวเองกับความสำเร็จเล็กๆ
จะเป็นความสำเร็จอะไรก็ได้ เล็กน้อยแค่ไหนก็ไม่มีปัญหา ขอแค่คุณภูมิใจกับมัน ลองหัดชื่นชม หรือให้รางวัลตัวเองกับความสำเร็จนั้นๆ เพื่อกระตุ้นตัวเองให้มีแรงสู้ต่อไป
15. เก็บที่นอนหลังตื่นนอน
ทริกนี้อาจดูไม่มีอะไร แต่ความจริงแล้วมันช่วยได้มากกว่าที่หลายคนคิด การเก็บที่นอนและพับผ้าห่มให้เรียบร้อยทำให้คุณรู้สึกว่าได้ทำอะไรสำเร็จไปอีกอย่าง และจะมีอะไรดีไปกว่าการเริ่มต้นวันด้วยความสำเร็จ ว่าไหม?
16. เปิด Tab ใน Browser แค่อันเดียว
การเงยหน้ามาเห็นแท็บนับสิบเรียงกันบนหน้าจอมันชวนปวดหัวมากๆ เลยใช่มั้ย และการเปิดหลายๆ แท็บนั้นคือการที่คุณ กำลังทำงานแบบ Multitasking หรือทำอะไรหลายอย่างพร้อมกัน ซึ่งไม่ดีต่อสมองของคุณเลย ลองหาให้จบไปทีละอย่าง ใช้แท็บเดียวเปิดทีละอัน มันจะทำให้คุณเหนื่อยและสับสนน้อยลงเยอะ
17. ยอมให้ระบบทำงานแทน 1 อย่าง
ในหนึ่งเดือนเรามีเรื่องให้ต้องคิดมากมาย ไหนจะเรื่องจุกจิกอย่างจ่ายค่าไฟ ค่าอินเทอร์เน็ต ค่าน้ำ บลา บลา บลา เรารู้ว่าการได้ทำทุกอย่างเองทำให้มั่นใจกว่า แต่ทุกวันนี้ระบบออนไลน์เชื่อถือได้ค่อนข้างมาก ลองเริ่มจากตั้งให้หักค่าอินเทอร์เน็ตจากบัญชีทุกเดือนดีมั้ย อย่างน้อยจะได้ลดเรื่องวุ่นๆ ในหัวคุณลงอีกเรื่อง
18. ยอมให้คนอื่นทำงานแทน 1 อย่าง
สำหรับข้อนี้เราก็ยังคงอยู่กับเรื่องการเก็บเอางานทุกอย่างมาใส่ตัว เพราะนั่นมันเป็นพฤติกรรมที่ทำให้คุณเหนื่อยเปล่า ลองเริ่มจากเลือกสักงานที่จริงๆ แล้วคุณไม่ต้องทำเองก็ได้ แล้วส่งให้ผู้ช่วยของคุณทำแทน การเรียนรู้ที่จะเชื่อใจคนอื่นนั้นทำให้ชีวิตคุณมีความสุขและทำงานได้มีประสิทธิภาพขึ้นเยอะ
19. ตั้งเป้าเปลี่ยนนิสัย 1 อย่างของตัวเอง และทำให้ได้จริง
เลือกนิสัยไม่ดีที่อยากเปลี่ยนมาสักอย่าง และตั้งเป้ามุ่งมั่นเปลี่ยนให้ได้ เช่น นิสัยหยิบของแล้วไม่เก็บที่ เตือนตัวเองในใจทุกครั้งที่หยิบอะไรออกมา ลองทำต่อเนื่อง 21 วันดู คุณจะพบว่ามันไม่ฝืนอีกต่อไป
อะไรจะดีไปกว่าการได้เคล็ดลับดีๆ จากไอดอลของเราเอง ไม่ว่าจะเป็นเพื่อนร่วมงานสุดเท่ หรือบอสคนเก่งของคุณ ลองไปขอคำแนะนำจากเขา ให้เขาเลือกทริกมาสักหนึ่งข้อ แล้วลองมาปรับใช้กับตัวเองดู เผื่อจะได้มุมมองที่คุณไม่เคยคิดมาก่อน
12. ชวนเพื่อนมาร่วมภารกิจนี้ด้วยกัน
หนึ่งคนหัวหายสองคนเพื่อนตาย ลองหาเพื่อนสนิทที่คุณไว้ใจ หรือคนที่คุณคุยด้วยแล้วสบายใจ ชวนเขามาทำภารกิจนี้ด้วยกัน จะได้มีคนไว้แลกเปลี่ยนความเห็นและคอยให้กำลังใจกัน
13. นั่งสมาธิสัก 10 นาที
จะเช้า สาย บ่าย เย็น เวลาไหนก็ได้ที่คุณสะดวก ลองนั่งหลับตานิ่งๆ สัก 10 นาที เคลียร์เรื่องราวต่างๆ ในหัว หากสามารถทำได้เป็นนิสัย คุณจะมีสมาธิในการทำงานมากขึ้นแน่นอน
14.ให้รางวัลตัวเองกับความสำเร็จเล็กๆ
จะเป็นความสำเร็จอะไรก็ได้ เล็กน้อยแค่ไหนก็ไม่มีปัญหา ขอแค่คุณภูมิใจกับมัน ลองหัดชื่นชม หรือให้รางวัลตัวเองกับความสำเร็จนั้นๆ เพื่อกระตุ้นตัวเองให้มีแรงสู้ต่อไป
15. เก็บที่นอนหลังตื่นนอน
ทริกนี้อาจดูไม่มีอะไร แต่ความจริงแล้วมันช่วยได้มากกว่าที่หลายคนคิด การเก็บที่นอนและพับผ้าห่มให้เรียบร้อยทำให้คุณรู้สึกว่าได้ทำอะไรสำเร็จไปอีกอย่าง และจะมีอะไรดีไปกว่าการเริ่มต้นวันด้วยความสำเร็จ ว่าไหม?
16. เปิด Tab ใน Browser แค่อันเดียว
การเงยหน้ามาเห็นแท็บนับสิบเรียงกันบนหน้าจอมันชวนปวดหัวมากๆ เลยใช่มั้ย และการเปิดหลายๆ แท็บนั้นคือการที่คุณ กำลังทำงานแบบ Multitasking หรือทำอะไรหลายอย่างพร้อมกัน ซึ่งไม่ดีต่อสมองของคุณเลย ลองหาให้จบไปทีละอย่าง ใช้แท็บเดียวเปิดทีละอัน มันจะทำให้คุณเหนื่อยและสับสนน้อยลงเยอะ
17. ยอมให้ระบบทำงานแทน 1 อย่าง
ในหนึ่งเดือนเรามีเรื่องให้ต้องคิดมากมาย ไหนจะเรื่องจุกจิกอย่างจ่ายค่าไฟ ค่าอินเทอร์เน็ต ค่าน้ำ บลา บลา บลา เรารู้ว่าการได้ทำทุกอย่างเองทำให้มั่นใจกว่า แต่ทุกวันนี้ระบบออนไลน์เชื่อถือได้ค่อนข้างมาก ลองเริ่มจากตั้งให้หักค่าอินเทอร์เน็ตจากบัญชีทุกเดือนดีมั้ย อย่างน้อยจะได้ลดเรื่องวุ่นๆ ในหัวคุณลงอีกเรื่อง
18. ยอมให้คนอื่นทำงานแทน 1 อย่าง
สำหรับข้อนี้เราก็ยังคงอยู่กับเรื่องการเก็บเอางานทุกอย่างมาใส่ตัว เพราะนั่นมันเป็นพฤติกรรมที่ทำให้คุณเหนื่อยเปล่า ลองเริ่มจากเลือกสักงานที่จริงๆ แล้วคุณไม่ต้องทำเองก็ได้ แล้วส่งให้ผู้ช่วยของคุณทำแทน การเรียนรู้ที่จะเชื่อใจคนอื่นนั้นทำให้ชีวิตคุณมีความสุขและทำงานได้มีประสิทธิภาพขึ้นเยอะ
19. ตั้งเป้าเปลี่ยนนิสัย 1 อย่างของตัวเอง และทำให้ได้จริง
เลือกนิสัยไม่ดีที่อยากเปลี่ยนมาสักอย่าง และตั้งเป้ามุ่งมั่นเปลี่ยนให้ได้ เช่น นิสัยหยิบของแล้วไม่เก็บที่ เตือนตัวเองในใจทุกครั้งที่หยิบอะไรออกมา ลองทำต่อเนื่อง 21 วันดู คุณจะพบว่ามันไม่ฝืนอีกต่อไป
https://unsplash.com/photos/rH8O0FHFpfw
20. ตั้งเป้าสร้างนิสัย 1 อย่างของตัวเอง และทำให้ได้จริง
เปลี่ยนนิสัยได้แล้ว ก็ต้องสร้างสิ่งดีๆ ควบคู่ไปด้วย เลือกนิสัยดีๆ ที่อยากเพิ่มมาสักอย่าง เช่น ออกกำลังกายวันเว้นวัน ดื่มน้ำวันละ 3 ลิตร แล้วเริ่มทำให้ได้จริงจัง ลองใช้กฎทำต่อเนื่อง 21 วันดูก็ได้เช่นกัน
21. ทบทวนสัปดาห์ที่ผ่านมา และหาสิ่งที่ทำให้เสียเวลาที่สุด
ทบทวนดูว่าตลอดสัปดาห์ที่ผ่านมาคุณทำอะไรบ้าง และเลือกกิจกรรม 1 อย่างที่ขโมยเวลาคุณไปมากที่สุด อย่างของผู้เขียนเป็น นอนโอ้เอ้ 1 ชั่วโมงก่อนอาบน้ำ ละตั้งเป้าเลยว่าสัปดาห์นี้ฉันจะไม่ทำแบบนั้นแล้ว
22. สร้างลิสต์ ‘สิ่งที่จะหยุดทำ’
การเพิ่มความโปรดักทีฟไม่ใช่แค่การสร้างนิสัยดีๆ แต่รวมถึงการหยุดทำนิสัยบางอย่าง เช่น ตอบรับทุกอย่างที่คนอื่นขอให้ทำ ทำงานหลายอย่างพร้อมกัน หรือแม้แต่การไม่เห็นคุณค่าในตัวเองอีกด้วย
23. กินมื้อที่เฮลท์ตี้ที่สุด
วันนี้ลองมาคิดกันว่าอาหารอะไรคืออาหารที่เฮลท์ตี้ มีคุณค่าทางโภชนาการ และมีประโยชน์ต่อสุขภาพที่สุดที่คุณจะหาทานได้ วันนี้ลองกินอาหารแบบนั้นสักมื้อ เติมพลังให้ตัวเองกัน
24. วางแผนสิ่งที่จะทำวันพรุ่งนี้
คืนนี้ก่อนนอนลองวางแผนเลยว่าวันพรุ่งนี้คุณจะทำอะไรดี วางแผนอย่างละเอียดในแบบที่ตื่นมาพรุ่งนี้ไม่ต้องคิดอะไรและลงมือทำได้เลย คุณจะได้วันที่เป็นระเบียบและมีประสิทธิภาพกว่าเดิมแน่นอน
25. ออกไปเดินเล่นหรือวิ่งจ็อกกิ้ง 20 นาที
การออกกำลังกายเป็นสิ่งขาดไม่ได้เลยหากคุณอยากเพิ่มความโปรดักทีฟให้ตัวเอง วันนี้ลองออกไปวิ่งจ็อกกิ้งหรือเดินสัก 20 นาที กระตุ้นพลังในตัวเอง เพิ่มความสดชื่นกันหน่อย
26. สร้างลิสต์ ‘สิ่งที่เดี๋ยวค่อยทำก็ได้’
แต่ละวันคุณมีงานมากมาย นอกจากจะจัดระเบียบด้วยการเลือกงานหลักแล้ว ควรเริ่มสร้างลิสต์ของสิ่งที่คุณจะแวะกลับไปดู หรือไปทำทีหลัง นอกจากจะช่วยลดสิ่งรบกวนแล้วยังช่วยกันลืมได้ด้วยนะ
27. นอนให้ครบ 8 ชั่วโมง
วันนี้ลองวางมือถือ วางงาน วางหนังสือที่อ่านอยู่ลงเร็วขึ้นสักนิด แล้วเข้านอนเร็วหน่อยให้คุณได้นอนเต็มอิ่มครบ 8 ชั่วโมง ไม่มีอะไรช่วยให้คุณมีวันดีๆ ได้มากกว่าไปกว่าการนอนหลับที่เต็มอิ่ม
28. เปลี่ยนหน้าจอมือถือและคอมพิวเตอร์เป็น Quote ที่ชอบ
การได้อ่านคำคมที่ปลุกใจคุณได้มากที่สุดทุกครั้งที่เปิดหน้าจอทำงานหรือทุกครั้งที่หยิบมือถือขึ้นมาดูจะเป็นการช่วยย้ำเตือนแง่คิดนั้นให้กับคุณ และได้เติมแรงบันดาลใจตลอดทั้งวัน
29. เรียนรู้เรื่องใหม่ ๆ สักเรื่อง
วันนี้ลองหาหนังสือเล่มใหม่ พอดแคสต์เรื่องใหม่ หรือ TED Talk สักหัวข้อหนึ่งมาฟังดู จะเป็นเรื่องอะไรก็ได้ที่คุณอยากเรียนรู้ เพราะทุกครั้งที่เราได้เรียนรู้สิ่งใหม่ๆ จิตวิญญาณความเป็นเด็กนักเรียนที่พร้อมกระตือรือร้นของเราจะกลับมาอีกครั้ง และเตือนตัวเองเสมอว่าการเรียนรู้ไม่มีวันสิ้นสุด คุณเรียนได้ตลอดชีวิต
30. กอดคนที่คุณรัก
อ้อมกอดจากคนที่คุณรักจะช่วยขจัดความเหนื่อย และชาร์จไฟในตัวคุณได้ไม่ว่าวันนั้นจะเจอปัญหาอะไรมาก็ตาม มีงานวิจัยมากมายที่พูดถึงประโยชน์ของการกอด กอดน้องหมาน้องแมวก็นับเหมือนกันนะ
31. ให้รางวัลตัวเองกับความสำเร็จที่สำคัญที่สุดของเดือนนี้
เดินทางมาถึงวันสุดท้ายของเดือนกันแล้ว วันนี้ลองมองกลับไปที่เรื่องดีๆ ที่คุณได้ทำมาตลอดทั้งเดือน เลือกสักเรื่องที่คุณภูมิใจที่สุด และให้รางวัลตัวเองสักชิ้น อาจจะเป็นมื้ออาหารสุดพิเศษ หรือของที่คุณอยากได้มานาน เพื่อกระตุ้นตัวเองให้คุณมีแรงใช้ชีวิตต่อไปไม่ว่ามันจะยากแค่ไหนก็ตาม
เราหวังว่าหลังจากครบ 31 วันแล้ว ทุกคนจะยังคงทำสิ่งต่าง ๆ ในตารางนี้กันต่อไป เพื่อสร้างคุณคนใหม่ที่โปรดักทีฟกว่าเดิม
Source
Productive and Free
20. ตั้งเป้าสร้างนิสัย 1 อย่างของตัวเอง และทำให้ได้จริง
เปลี่ยนนิสัยได้แล้ว ก็ต้องสร้างสิ่งดีๆ ควบคู่ไปด้วย เลือกนิสัยดีๆ ที่อยากเพิ่มมาสักอย่าง เช่น ออกกำลังกายวันเว้นวัน ดื่มน้ำวันละ 3 ลิตร แล้วเริ่มทำให้ได้จริงจัง ลองใช้กฎทำต่อเนื่อง 21 วันดูก็ได้เช่นกัน
21. ทบทวนสัปดาห์ที่ผ่านมา และหาสิ่งที่ทำให้เสียเวลาที่สุด
ทบทวนดูว่าตลอดสัปดาห์ที่ผ่านมาคุณทำอะไรบ้าง และเลือกกิจกรรม 1 อย่างที่ขโมยเวลาคุณไปมากที่สุด อย่างของผู้เขียนเป็น นอนโอ้เอ้ 1 ชั่วโมงก่อนอาบน้ำ ละตั้งเป้าเลยว่าสัปดาห์นี้ฉันจะไม่ทำแบบนั้นแล้ว
22. สร้างลิสต์ ‘สิ่งที่จะหยุดทำ’
การเพิ่มความโปรดักทีฟไม่ใช่แค่การสร้างนิสัยดีๆ แต่รวมถึงการหยุดทำนิสัยบางอย่าง เช่น ตอบรับทุกอย่างที่คนอื่นขอให้ทำ ทำงานหลายอย่างพร้อมกัน หรือแม้แต่การไม่เห็นคุณค่าในตัวเองอีกด้วย
23. กินมื้อที่เฮลท์ตี้ที่สุด
วันนี้ลองมาคิดกันว่าอาหารอะไรคืออาหารที่เฮลท์ตี้ มีคุณค่าทางโภชนาการ และมีประโยชน์ต่อสุขภาพที่สุดที่คุณจะหาทานได้ วันนี้ลองกินอาหารแบบนั้นสักมื้อ เติมพลังให้ตัวเองกัน
24. วางแผนสิ่งที่จะทำวันพรุ่งนี้
คืนนี้ก่อนนอนลองวางแผนเลยว่าวันพรุ่งนี้คุณจะทำอะไรดี วางแผนอย่างละเอียดในแบบที่ตื่นมาพรุ่งนี้ไม่ต้องคิดอะไรและลงมือทำได้เลย คุณจะได้วันที่เป็นระเบียบและมีประสิทธิภาพกว่าเดิมแน่นอน
25. ออกไปเดินเล่นหรือวิ่งจ็อกกิ้ง 20 นาที
การออกกำลังกายเป็นสิ่งขาดไม่ได้เลยหากคุณอยากเพิ่มความโปรดักทีฟให้ตัวเอง วันนี้ลองออกไปวิ่งจ็อกกิ้งหรือเดินสัก 20 นาที กระตุ้นพลังในตัวเอง เพิ่มความสดชื่นกันหน่อย
26. สร้างลิสต์ ‘สิ่งที่เดี๋ยวค่อยทำก็ได้’
แต่ละวันคุณมีงานมากมาย นอกจากจะจัดระเบียบด้วยการเลือกงานหลักแล้ว ควรเริ่มสร้างลิสต์ของสิ่งที่คุณจะแวะกลับไปดู หรือไปทำทีหลัง นอกจากจะช่วยลดสิ่งรบกวนแล้วยังช่วยกันลืมได้ด้วยนะ
27. นอนให้ครบ 8 ชั่วโมง
วันนี้ลองวางมือถือ วางงาน วางหนังสือที่อ่านอยู่ลงเร็วขึ้นสักนิด แล้วเข้านอนเร็วหน่อยให้คุณได้นอนเต็มอิ่มครบ 8 ชั่วโมง ไม่มีอะไรช่วยให้คุณมีวันดีๆ ได้มากกว่าไปกว่าการนอนหลับที่เต็มอิ่ม
28. เปลี่ยนหน้าจอมือถือและคอมพิวเตอร์เป็น Quote ที่ชอบ
การได้อ่านคำคมที่ปลุกใจคุณได้มากที่สุดทุกครั้งที่เปิดหน้าจอทำงานหรือทุกครั้งที่หยิบมือถือขึ้นมาดูจะเป็นการช่วยย้ำเตือนแง่คิดนั้นให้กับคุณ และได้เติมแรงบันดาลใจตลอดทั้งวัน
29. เรียนรู้เรื่องใหม่ ๆ สักเรื่อง
วันนี้ลองหาหนังสือเล่มใหม่ พอดแคสต์เรื่องใหม่ หรือ TED Talk สักหัวข้อหนึ่งมาฟังดู จะเป็นเรื่องอะไรก็ได้ที่คุณอยากเรียนรู้ เพราะทุกครั้งที่เราได้เรียนรู้สิ่งใหม่ๆ จิตวิญญาณความเป็นเด็กนักเรียนที่พร้อมกระตือรือร้นของเราจะกลับมาอีกครั้ง และเตือนตัวเองเสมอว่าการเรียนรู้ไม่มีวันสิ้นสุด คุณเรียนได้ตลอดชีวิต
30. กอดคนที่คุณรัก
อ้อมกอดจากคนที่คุณรักจะช่วยขจัดความเหนื่อย และชาร์จไฟในตัวคุณได้ไม่ว่าวันนั้นจะเจอปัญหาอะไรมาก็ตาม มีงานวิจัยมากมายที่พูดถึงประโยชน์ของการกอด กอดน้องหมาน้องแมวก็นับเหมือนกันนะ
31. ให้รางวัลตัวเองกับความสำเร็จที่สำคัญที่สุดของเดือนนี้
เดินทางมาถึงวันสุดท้ายของเดือนกันแล้ว วันนี้ลองมองกลับไปที่เรื่องดีๆ ที่คุณได้ทำมาตลอดทั้งเดือน เลือกสักเรื่องที่คุณภูมิใจที่สุด และให้รางวัลตัวเองสักชิ้น อาจจะเป็นมื้ออาหารสุดพิเศษ หรือของที่คุณอยากได้มานาน เพื่อกระตุ้นตัวเองให้คุณมีแรงใช้ชีวิตต่อไปไม่ว่ามันจะยากแค่ไหนก็ตาม
เราหวังว่าหลังจากครบ 31 วันแล้ว ทุกคนจะยังคงทำสิ่งต่าง ๆ ในตารางนี้กันต่อไป เพื่อสร้างคุณคนใหม่ที่โปรดักทีฟกว่าเดิม
Source
Productive and Free
อัปเดตคอร์สใหม่และส่วนลดคอร์สต่างๆ
Thank you!
Policy Pages
Copyright © 2022
รับสิทธิพิเศษก่อนใคร แอดไลน์ @shiftyourfuture